(1) ความลึกของดอกยางตามขีดจำกัดขั้นต่ำที่กฎหมายอนุญาต 1.6 มม.
(2) การทดสอบแรงต้านทานการหมุนบนเครื่องจักรโดยบริษัท Applus Idiada ตามคำขอของมิชลิน ดำเนินการในเดือนมิถุนายน (ยางใหม่) และสิงหาคม (ยางที่มีการขัดถู 2 มม.) ปี 2020 โดยทดสอบกับยางขนาด 205/55 R16 91V, การเปรียบเทียบยางรุ่นมิชลิน e.Primacy (ยางใหม่: 5.58 กก./ตัน และยางสึก: 5.13 กก./ตัน) กับมิชลิน ไพรมาซี่ 4 (ยางใหม่: 7.74 กก./ตัน และยางสึก: 6.25 กก./ตัน); BRIDGESTONE TURANZA T005 (ยางใหม่: 7.17 กก./ตัน และยางสึก: 5.81 กก./ตัน); CONTINENTAL ECOCONTACT 6 (ยางใหม่: 6.39 กก./ตัน และยางสึก: 5.49 กก./ตัน); CONTINENTAL PREMIUM CONTACT 6 (ยางใหม่: 8.93 กก./ตัน และยางสึก: 6.94 กก./ตัน); DUNLOP BLURESPONSE (ยางใหม่: 7.97 กก./ตัน และยางสึก: 5.54 กก./ตัน); GOODYEAR EFFICIENT GRIP 2 (ยางใหม่: 7.01 กก./ตัน และยางสึก: 5.38 กก./ตัน); PIRELLI CINTURATO P7 BLUE (ยางใหม่: 6.96 กก./ตัน และยางสึก: 6.30 กก./ตัน); PIRELLI CINTURATO P7 (ยางใหม่: 8.79 กก./ตัน และยางสึก: 6.97 กก./ตัน)
เมื่ออยู่ในสภาพใหม่ มิชลิน e.Primacy สร้างแรงต้านทานการหมุนเฉลี่ยที่ 2 กก./ตัน ซึ่งอยู่ในระดับน้อยกว่าคู่แข่งชั้นนำ เทียบเท่ากับการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 0.21 ลิตร/100 กม. เทียบเท่ากับผลการทดสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด 5 ก. สำหรับ VW GOLF 7 1.5 TSI หรือเทียบเท่ากับผลการทดสอบการทำงานของแบตเตอรี่ถึง 7% สำหรับ VW e.GOLF
ระหว่างการใช้งาน มิชลิน e.Primacy สร้างแรงต้านทานการหมุนเฉลี่ย 1.5 กก./ตัน ซึ่งอยู่ในระดับน้อยกว่าคู่แข่งชั้นนำ ผลการทดสอบเทียบเท่ากับการประหยัดเชื้อเพลิงสูงสุดถึงประมาณ 3,000 บาท ผลการทดสอบนี้เทียบเท่ากับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดลงถึง 174 กก. ผลการทดสอบการใช้งานนั้นประเมินจากค่าเฉลี่ยของข้อมูลยางเส้นใหม่และยางที่มีการขัดผิว 2 มม. โดยคำนึงถึงประสิทธิภาพการทำงานตามเวลาจริง - ประเมินผลการทดสอบทั้งหมดบนพื้นฐานการขับขี่ในระยะทาง 35,000 กม. และ
(3) มิชลิน e.Primacy ได้คะแนนระดับ "B" ในสเกลฉลาก Wet Grip Item ของยุโรป
(4) - ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงต่ำ - MICHELIN ENERGY SAVER+ ได้รับมอบรางวัล "Eco Champion” จาก AutoBild ในปี 2013 และในปี 2018 สำหรับ FULDA EcoControl HP
(5) "กิโลเมตรสุดท้าย" มีความหมายว่าจนถึงระดับความลึกของดอกยางขั้นต่ำตามกฎหมายสำหรับยางรถยนต์ (1.6 มม.) โปรดอ้างอิงข้อมูลความลึกของดอกยางขั้นต่ำตามกฎหมายสำหรับยางรถยนต์สำหรับประเทศของคุณ
(6) ผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ รุ่น และขนาดของยาง ความเร็ว และสภาพถนน การขับขี่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่ รถยนต์ หรือแรงดันลมยาง
(7) เมื่ออยู่ในสภาพใหม่ มิชลิน e.Primacy สร้างแรงต้านทานการหมุนเฉลี่ยที่ 2 กก./ตัน ซึ่งน้อยกว่าระดับของคู่แข่งชั้นนำ เทียบเท่ากับการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 0.21 ลิตร/100 กม. เทียบเท่ากับผลการทดสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด 5 ก. สำหรับ VW GOLF 7 1.5 TSI หรือเทียบเท่ากับผลการทดสอบการทำงานอัตโนมัติถึง 7% สำหรับ VW e.GOLF