เคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับยางรถยนต์ รถเอสยูวี และรถตู้
ยางแบนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ บ่อยครั้งที่การสูญเสียแรงดันลมยางเป็นผลมาจากยางรั่วหรือแก้มยางชำรุดเสียหาย แต่ก็อาจเกิดการรั่วไหลจากวาล์วยางรถยนต์ ฝาวาล์วยางรถยนต์ หรือแม้แต่ล้อได้เช่นกัน คุณควรทำอย่างไรเมื่อยางรถของคุณแบน? มาดูที่ประเด็นหลักของปัญหานี้
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่ายางแบนมีสาเหตุมาจากยางรั่ว?
ยางรั่วอาจทำให้ยางแบน ซึ่งยางรั่วนั้นอาจเกิดจากการขับรถทับตะปูหรือวัตถุที่แหลมคม การกระแทกที่แก้มยาง หรือวาล์วยางรถยนต์รั่ว
สัญญาณที่บ่งชี้ให้คุณรู้ว่ายางรั่ว:
● พวงมาลัยรถหน่วงหรือหนัก
● ความเฉื่อยที่รู้สึกได้อย่างชัดเจนเมื่อรถเคลื่อนตัวช้า ๆ
● รถเคลื่อนไปในทิศทางเดียว
● เสียงรบกวนดังขึ้นจากยางเส้นใดเส้นหนึ่งในขณะที่เข้าโค้ง
● การแจ้งเตือนจากระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง
● รถยนต์ไม่ได้ระดับเมื่อคุณเข้าไปนั่งในรถ
● ยางดูผิดรูปมากขึ้นเมื่อจอดรถ
ในกรณีนี้ ขอแนะนำให้คุณเปลี่ยนยาง และนำยางที่รั่วไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ
การขับรถในขณะที่ยางแบนปลอดภัยหรือไม่?
ไม่ปลอดภัย ยางรั่วไม่ว่าขนาดใดจะต้องได้รับการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการรับรอง การเติมลมยางที่ชำรุดเสียหายนั้นไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีความเสี่ยงที่คุณจะทำให้ยางแตก และลมยางแฟบอย่างรวดเร็วในขณะที่คุณอยู่ใกล้ ๆ การขับขี่รถในขณะที่ยางชำรุดเสียหายอาจทำให้ตัวคุณเอง ผู้โดยสาร และผู้ใช้ถนนรายอื่น ๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากการควบคุมรถอาจผิดปกติและยางอาจแตกได้
ค้นหาร้านตัวแทนจำหน่ายยางรถยนต์ที่อยู่ใกล้คุณ
ค้นหาจาก
ที่อยู่ จังหวัด หรือรหัสไปรษณีย์
รถยนต์
-
รถยนต์
-
รถจักรยานยนต์
-
จักรยานยนต์
ค้นหาจากตำแหน่งของฉัน
5 จังหวัดที่มีการค้นหามากที่สุด
แก้มยางชำรุดเสียหาย
ความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดอกยางซึ่งอยู่ห่างจากไหล่ยางและแก้มยางมักจะซ่อมแซมได้
แต่เมื่อมีรอยรั่วหรือรอยฉีกขาดเกิดขึ้นใกล้ ๆ แก้มยางหรือบนแก้มยาง การซ่อมแซมเล็กน้อยอาจไม่สามารถดำเนินการได้ ในสถานการณ์นี้ เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางพร้อมใช้งาน ต้องใช้การซ่อมแซมแก้มยางซึ่งหมายถึงการซ่อมแซมครั้งใหญ่ เพื่อให้แน่ใจว่าแก้มยางมีความแข็งแรงเพียงพอ ทว่ายังคงมีความยืดหยุ่น การซ่อมแซมยางรถยนต์ในลักษณะนี้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก และมีตัวแทนจำหน่ายยางเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่มีอุปกรณ์ที่จำเป็น
ด้วยเหตุนี้ การเปลี่ยนยางเส้นใหม่ อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า การซ่อมยางรถยนต์ควรดำเนินการโดยช่างที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางเท่านั้น ช่างซ่อมอาจปฏิเสธที่จะซ่อมยางของคุณด้วยเหตุผลหลายประการ เช่น หากช่างสงสัยว่าคุณขับขี่รถในขณะที่ยางมีแรงดันลมยางต่ำ
มีสาเหตุเพิ่มเติมหลายประการที่อาจไม่สามารถซ่อมแซมยางได้ หากคุณพบสิ่งเหล่านี้ แสดงว่ายางของคุณไม่เหมาะสำหรับการซ่อมแซมและจำเป็นต้องเปลี่ยนยางเส้นใหม่แทน:
● ความลึกของดอกยางน้อยกว่า 1.6 มม. ซึ่งกินพื้นที่ ¾ ตรงกลางของความกว้างดอกยาง
● ความเสียหายหรือความผิดปกติของขอบยางและโครงสร้างยาง รวมถึงการกัดกร่อนภายในเนื่องจากความชื้นที่เล็ดรอดเข้าไปผ่านรอยตัด
● วัสดุยางที่เก่าแล้ว
● รอยรั่วหลายรอยที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
ยางรถของฉันแบนเนื่องจากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่ยางรั่วหรือชำรุดเสียหาย
ในกรณีนี้ จุ๊บยางหรือล้ออาจรั่ว หรืออาจเป็นเพราะยางของคุณต้องการการบำรุงรักษาบ่อยขึ้น เป็นเรื่องปกติที่ยางจะสูญเสียแรงดันลมยางเล็กน้อยเมื่อเวลาผ่านไป คุณสามารถเติมแรงดันลมยางได้เป็นระยะระหว่างการตรวจสอบยางเป็นประจำ หากแรงดันลมยางไม่ลดลงมากจนทำให้ยางชำรุดเสียหาย
ขอแนะนำให้ตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และก่อนการเดินทางไกล นอกจากนี้ การตรวจสอบดังกล่าวยังระบุด้วยว่ามีการเปลี่ยนแปลงอัตราการสูญเสียแรงดันลมยางที่อาจจำเป็นต้องตรวจสอบหรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากไม่จัดการประเด็นนี้ การสูญเสียแรงดันลมยางอาจนำไปสู่การเติมลมยางที่ต่ำว่าปกติอย่างมาก ซึ่งมีความเสี่ยงหลายประการ:
● การเติมลมยางต่ำเกินไปจะทำให้อายุการใช้งานของดอกยางสั้นลง เนื่องจากอัตราการสึกหรอโดยทั่วไปเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ขอบด้านนอกของยาง (หรือไหล่ยาง)
● การเติมลมยางต่ำเกินไปยังสามารถทำให้เกิดการยืดหรือหดตัวมากเกินไปและความร้อนสูงเกินไป ซึ่งเพิ่มอัตราการสึกหรอของยาง และยังทำให้โครงสร้างยางแข็งแรงน้อยลงด้วย
● การเติมลมยางต่ำเกินไปอาจส่งผลต่อการควบคุมรถและสมรรถนะของยาง เช่น การเบรกหนัก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพอากาศเปียก
● การเติมลมยางต่ำเกินไปทำให้การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นเนื่องจากแรงต้านทานการหมุนของยางเพิ่มขึ้น ซึ่งหมายถึงการเข้าปั๊มเติมน้ำมันบ่อยขึ้นและค่าน้ำมันเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ การตรวจสอบแรงดันลมยางของคุณอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าคุณจะขับขี่รถยนต์ประเภทใด
ยางประเภทใดที่สามารถป้องกันการรั่วได้?
ยางมิชลินที่มีเทคโนโลยี Selfseal® ช่วยป้องกันการสูญเสียแรงดันลมยางจากการรั่วที่ดอกยาง และปิดผนึกรอยรั่วที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 6 มม. ได้ในทันที ซึ่งจะช่วยปกป้องยางในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนกว่าจะมีการซ่อมแซมรอยรั่ว
ยางรุ่น MICHELIN ZP ระบุด้วยโลโก้ ZP บนแก้มยาง ยางรุ่นนี้มีแก้มยางเสริมความแข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักบรรทุกในช่วงระยะเวลาหนึ่งเมื่อยางสูญเสียแรงดันลมยาง
ด้วยยางรุ่น MICHELIN ZP คุณสามารถขับรถต่อไปได้ แต่ความเร็วขั้นต่ำต้องอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะทางสูงสุด 80 กิโลเมตร เพื่อช่วยให้คุณสามารถค้นหาตัวแทนจำหน่ายเพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนยางได้ หากยางรั่วมากกว่าหนึ่งเส้น คุณไม่ควรขับรถต่อไป
ค้นหายางที่เหมาะสมกับรถยนต์คุณ
ระบุรุ่นรถยนต์หรือขนาดยาง
เรากำลังมองหายางของคุณ...
รอสักครู่ เรากำลังประมวลผลรูปภาพของคุณ