ยางที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักสูงคืออะไร?

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีรถยนต์ในปัจจุบันและในอนาคตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ส่วนใหญ่เกิดจากการเริ่มนำรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งาน ระยะทางการขับขี่ที่จำกัดของรถประเภทนี้ทำให้ผู้ขับขี่ทุกคนต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีสถานีชาร์จไฟฟ้าอยู่ระหว่างทาง การแวะจอดเพื่อชาร์จไฟฟ้าตามปกติทำให้ระยะเวลาในการเดินทางของคุณนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก วิธีแก้ปัญหานี้คือการใช้งานแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นและหนักขึ้น ซึ่งสามารถเก็บประจุไฟฟ้าได้มากขึ้น ช่วยให้คุณสามารถเดินทางได้ในระยะทางที่ไกลกว่าเดิมมาก ก่อนที่จะต้องชาร์จไฟใหม่ แต่การติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้น้ำหนักโดยรวมของรถเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

เนื่องจากยางทั้งสี่เส้นรองรับน้ำหนักบรรทุกของรถ เราจึงต้องเพิ่มขนาดยางหรือใช้ยางที่สามารถรองรับน้ำหนักได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การออกแบบรถยนต์ (โดยเฉพาะรถสปอร์ต) มักจะไม่มีพื้นที่สำหรับใส่ยางที่ใหญ่ขึ้น และยาง Extra Load (XL หรือ EL) ที่วางจำหน่ายในท้องตลาดก็ไม่สามารถรองรับน้ำหนักบรรทุกที่หนักขึ้นได้อย่างเพียงพอ แม้ว่าจะแข็งแรงและทนทานกว่ายางมาตรฐานก็ตาม ด้วยเหตุนี้ สมาคมผู้ผลิตยางรถยนต์ ETRTO (European Tyre and Rim Technical Organisation) ได้กำหนดมาตรฐานยางล้อใหม่ที่สามารถรับน้ำหนักได้มากกว่ายาง XL ที่มีอยู่ ซึ่งในปัจจุบันนี้รู้จักกันในชื่อยางมาตรฐานที่มีความสามารถในการรับน้ำหนักสูง (HL)

ยาง HL สามารถแยกแยะได้อย่างง่ายดาย โดยการดูตัวอักษรด้านหน้าที่ระบุว่า ‘HL’ ที่ด้านข้างเหนือรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดยาง

ความต้องการเทคโนโลยีที่สามารถปรับเปลี่ยนได้และการออกแบบยางใหม่นั้นชัดเจนที่สุด ด้วยการเติบโตและการยอมรับอย่างกว้างขวางของรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า  เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริโภคจะต้องซื้อยางที่ออกแบบมาตามความต้องการเฉพาะของรถยนต์เหล่านี้ ซึ่งโดยปกติแล้วจะรวมถึงการรับน้ำหนักที่สูงขึ้นเนื่องจากแบตเตอรี่ การรับประกันระบบเบรกแบบรีเจเนอเรทีฟ ความต้านทานการหมุนของยางที่ต่ำลง ตลอดจนการลดเสียงรบกวนเพื่อการเดินทางที่เงียบกว่า

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด มิชลินได้พัฒนายางมาตรฐานเหล่านี้ให้สอดคล้องกับกฎด้านความปลอดภัยบนท้องถนน และรับประกันว่ายางประเภทนี้สามารถติดตั้งกับรถยนต์ทุกคันที่จำเป็นต้องใช้ยางนี้ได้

เทคโนโลยีที่ใช้ในการผลิตยางเหล่านี้เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ล้ำสมัยสำหรับการพัฒนายางรถยนต์สมัยใหม่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้ความเชี่ยวชาญของมิชลินเพื่อเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนักของโครงยาง ในขณะเดียวกันก็รักษาความต้านทานการหมุนของยางและความสบายผ่านการผสมผสานระหว่างการผสมสารประกอบ รูปทรงของแม่พิมพ์ และประเภทการเสริมความแข็งแรง ซึ่งหมายถึงการปรับความแข็งของสารประกอบดอกยางเพื่อรองรับน้ำหนักที่มากขึ้น ในขณะที่ยังรักษาประสิทธิภาพการสึกหรอและการควบคุมรถไว้ รวมถึงการเสริมความแข็งแรงของโครงยางในบริเวณที่มีความแข็งแรงสูงสุดโดยใช้ชั้นยางที่ทนทานกว่าและสารประกอบที่แข็งกว่า สุดท้ายนี้ มีการปรับปรุงและปรับแต่งโครงร่างเพื่อรองรับการโค้งงอเพิ่มเติมของยาง เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น โดยไม่สูญเสียความสบายของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร  

ใส่หรือไม่ก็ได้ตามความต้องการของคุณ เมื่อใช้รถที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือมีความสามารถในการรับน้ำหนักสูงขึ้น คุณมีสองทางเลือก ได้แก่

• การเพิ่มขนาดยาง หากทำได้

• หรืออีกวิธีหนึ่งคือการใช้ยางขนาดเท่าเดิมแต่มีความสามารถในการรับน้ำหนัก (HL) สูงขึ้น

แต่โปรดทราบว่าหากคุณกำลังขับรถยนต์ไฮบริดหรือรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีกำลังมาก ก็มีแนวโน้มที่คุณจะต้องใช้ยาง HL โปรดจำไว้เสมอว่ารถยนต์ที่ใช้ยาง HL จะต้องเปลี่ยนด้วยยาง HL ใหม่เมื่อจำเป็น