Choose a language
4w 483 tire michelin e primacy en product in context 1 nosignature 16 slash 9

วิธีเลือกยางรถยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมที่สุด

เคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับยางรถยนต์ รถเอสยูวี และรถตู้

เมื่อต้องเปลี่ยนยางให้รถยนต์ไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างยางรถยนต์ไฟฟ้าชนิดต่างๆ กับยางที่ออกแบบมาเพื่อรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาป ค้นหาความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับเบื้องหลังในการผลิตยางรถยนต์ไฟฟ้า และสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ มากมายกว่าที่คุณจะคาดคิดเกี่ยวกับยาง

ยางรถยนต์ไฟฟ้านั้นเหมือนกับยางรถยนต์ที่ใช้เครื่องแบบสันดาปหรือไม่?

รถยนต์ไฟฟ้าและรถที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน (ICE) อาจจะดูเหมือนๆ กัน และบางครั้งอาจจะใส่ยางแบบเดียวกันมาด้วย! แต่กระนั้นก็ตาม เพื่อใช้ประโยชน์จากรถยนต์ไฟฟ้าสูงสุด มิชลินจึงได้พัฒนายางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะขึ้นมา แม้ว่ามิชลินจะผลิต MICHELIN Pilot Sport EV และ MICHELIN e.Primacy ขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะก็ตาม แต่โปรดจำไว้ว่า ยางทุกเส้นที่เราผลิตขึ้นมานั้นก็เหมาะสมต่อการใช้งานกับรถยนต์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน

เมื่อใส่ยางที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่ การเก็บเสียงในห้องโดยสารจะได้รับผลกระทบมากที่สุด สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า เมื่อคุณเหยียบคันเร่ง คุณจะสามารถใช้กำลังของรถ 100% ในทันที แต่ในรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาป กำลังของเครื่องยนต์จะค่อยๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีการโอนถ่ายน้ำหนักอย่างรวดเร็วและหนักหน่วงกว่าเครื่องยนต์แบบสันดาปมาก

ความแตกต่างเหล่านี้ของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ ICE <b>มีผลต่อการออกแบบยาง</b> ที่มิชลิน เราออกแบบยางรถยนต์ไฟฟ้าให้มีความแตกต่างเพื่อใช้ประสิทธิภาพสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้า ระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่ ความเงียบในห้องโดยสาร และอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นสิ่งที่เราคำนึงถึงในการออกแบบในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความปลอดภัยและความเพลิดเพลินในการขับขึ่รถยนต์ไฟฟ้าของคุณ

ยางรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับรถไฟฟ้าทุกประเภทนั้นเหมือนกันหรือไม่?

4w 461 tire michelin crossclimate 2 en us product in context dry no signature 16 slash 9

เช่นเดียวกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบ ICE ยางสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ได้มีเพียงชนิดเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้งานของรถ มิชลินออกแบบยางโดยคำนึงถึงรูปแบบการใช้งาน ยางจำเป็นต้องตอบสนองความต้องการด้านการขับขี่หลายรูปแบบ เช่นเดียวกับรถยนต์ชนิดอื่นๆ

ตัวอย่างเช่น ผู้ขับขี่รถสปอร์ตจะมีความต้องการที่แตกต่างจากผู้ที่ขับขี่รถซิตี้คาร์มาก ผู้ขับขี่รถสปอร์ตจะต้องการความแม่นยำของการบังคับพวงมาลัย ผู้ขับขี่ประเภทนี้ซื้อรถสปอร์ตก็เพราะเมื่อใดก็ตามที่หักเลี้ยว ผู้ขับขี่จะรู้สึกได้ว่ารถมีการตอบสนอง ความรู้สึกนี้เองที่เป็นความเพลิดเพลินในการขับขี่สำหรับผู้ขับขี่รถสปอร์ต ดังนั้น ยางของรถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตจึงต้องผสมผสานลักษณะพิเศษของรถยนต์ไฟฟ้าเข้ากับความแม่นยำในการขับขี่

ความท้าทายสำหรับยางรถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ต

การสร้างความรู้สึกการขับขี่ในรูปแบบยางรถสปอร์ตนั้นจะต้องใช้การพัฒนาและการค้นคว้าอย่างมากมาย ยางที่นิ่มและไม่ค่อยตอบสนองจะส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การขับขี่โดยรวม ซึ่งจะไม่สามารถตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วยรถสปอร์ตได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ยางรถสปอร์ตที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 

รถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงที่สามารถสร้างแรงบิดในทันทีทันใดและอัตราเร่งที่รวดเร็ว เพื่อสนับสนุนมอเตอร์ไฟฟ้าชนิดนี้ คุณจะต้องใช้แบตเตอรี่แรงสูง ซึ่งจะส่งผลให้มีน้ำหนักมาก น้ำหนักโดยเฉลี่ยของแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตคือประมาณ 400 กก. ด้วยน้ำหนักและพลังงานในระดับดังกล่าว คุณจะต้องสามารถควบคุมรถได้อย่างยอดเยี่ยมและให้ความสนใจต่อระยะทางที่สามารถใช้งานได้ของแบตเตอรี่ที่ลดลงเนื่องจากน้ำหนักบรรทุกที่เพิ่มขึ้นนี้ ดังนั้น ความท้าทายส่วนใหญ่จึงอยู่ที่การสร้างความสมดุลระหว่างการควบคุมและระยะทางที่สามารถใช้งานได้โดยสัมพันธ์กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

คุณจะทราบได้อย่างไรว่าจะใส่ยางชนิดใดกับรถยนต์ไฟฟ้าของคุณ?

ยาง MICHELIN Pilot Sport EV ออกแบบมาเพื่อตอบสนองสมรรถนะที่มีลักษณะเฉพาะที่รถยนต์ไฟฟ้าแบบสปอร์ตต้องการ

ยาง MICHELIN Pilot Sport EV มีนวัตกรรมที่ช่วยเพิ่มความมั่นคงในการเลี้ยวเพื่อรักษาความไวในการควบคุมให้อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายใน โดยจะมีความมั่นคงในการเลี้ยว(1)เพิ่มขึ้น 15% เพื่อชดเชยมวลที่เพิ่มขึ้น

ยาง MICHELIN Pilot Sport EV ยังมีระยะทางที่รถสามารถวิ่งได้เพิ่มขึ้นอีก 60 กม.(2) และลดเสียงรบกวนที่รับรู้ได้ลด้ลง 20%(3) เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในการขับขี่ได้ยาวไกลยิ่งขึ้น

MICHELIN Pilot Sport EV tire: Electrified road control, made to last | Michelin

สำหรับรถซิตี้คาร์และรถขนาดกลางและรถหรูอื่นๆ โปรดเลือกใช้ยาง MICHELIN e.Primacy ซึ่งเป็นยางที่ออกแบบมาโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมชนิดแรกของแบรนด์ ยาง MICHELIN e.Primacy เป็นก้าวย่างที่สำคัญในด้านความก้าวหน้าของยางเพื่อสิ่งแวดล้อม ยาง MICHELIN e.Primacy เป็นยางที่ได้คะแนนสูงสุดในด้านแรงต้านการหมุนของตลาดระดับพรีเมี่ยม (4)(5) 

สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ยาง MICHELIN E.Primacy สามารถเพิ่มพลังงานแบตเตอรี่ได้ถึง 7%. เดียวกับลักษณะเหล่านี้ ประสิทธิภาพในด้านอื่นๆ เช่นการยึดเกาะบนพื้นเปียกและอายุการใช้งานยาวนานยังคงมีมาตรฐานในระดับสูง(7)(8) จึงมีความปลอดภัยในระดับสูง

มิชลินยังได้พัฒนา ยางที่มีเครื่องหมายเฉพาะร่วมกับผู้ผลิตรถยนต์ เช่น Mercedes-AMG, Porsche, Tesla ยางที่มีเครื่องหมายเฉพาะจะหมายถึงยางเส้นดังกล่าวมีคุณสมบัติตรงตามที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนด ซึ่งใช้กับยางรถยนต์ไฟฟ้าด้วย

มิชลินได้สร้างสรรค์ยางออกมาหลากหลายประเภทสำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า คุณสามารถดูเครื่องหมายของยางได้ที่แก้มยาง

New MICHELIN e.PRIMACY Tyre - Eco-responsible, made to last

ข้อกฎหมาย

MICHELIN Pilot Sport EV

 

(1) - การศึกษาภายในเกี่ยวกับความมั่นคงในการเลี้ยวซึ่งดำเนินการเมื่อ 10/2020 ด้วยยางขนาด 255/45 R19 โดยเปรียบเทียบ MICHELIN Pilot Sport EV กับ MICHELIN Pilot Sport 4 SUV

 

(2) ระยะทางที่สามารถวิ่งได้ของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นสำหรับ HP EV - การศึกษาภายในเกี่ยวกับแรงต้านการหมุนซึ่งดำเนินการเมื่อ 10/2020 ด้วยยางขนาด 255/45 R19 โดยเปรียบเทียบ MICHELIN Pilot Sport EV (6.7 กก./ตัน) กับ MICHELIN Pilot Sport 4 SUV (8.8 กก./ตัน) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 2151 กก. และมีระยะที่วิ่งได้ 540 กม. ความแตกต่าง 2.1 กก./ตัน นี้จะทำให้มีระยะที่วิ่งได้เพิ่มขึ้นกว่า 60 กม. หรือมากว่า 10% ของระยะที่วิ่งได้ตั้งต้น

 

(3) เสียงรบกวน - การวัดเสียงภายในห้องโดยสาร กระทำขึ้นเมื่อปี 2016 ด้วยยางขนาด 245/45 R19 ในรถยนต์ KIA Cadenza ระดับเสียงที่วัดได้อยู่ในช่วง "170-230Hz" ผลลัพธ์อาจจะแตกต่างกันไปตามประเภทของรถ ประเภทและขนาดของยาง ความเร็ว และสภาพถนน

 

MICHELIN e·Primacy

 

การทดสอบแรงต้านทานการหมุน - การทดสอบแรงต้านทานการหมุนบนเครื่องจักรโดยบริษัท Applus Idiada ตามคำขอของมิชลิน ดำเนินการในเดือนมิถุนายน (ยางใหม่) และสิงหาคม (ยางที่มีการขัดถู 2 มม.) ปี 2020 โดยทดสอบกับยางขนาด 205/55 R16 91V, การเปรียบเทียบยางรุ่น MICHELIN e.PRIMACY (ยางใหม่: 5.58 กก./ตัน และยางสึก: 5.13 กก./ตัน) กับ MICHELIN PRIMACY 4 (ยางใหม่: 7.74 กก./ตัน และยางสึก: 6.25 กก./ตัน) ; BRIDGESTONE TURANZA T005 (ยางใหม่: 7.17 กก./ตัน และยางสึก: 5.81 กก./ตัน) ; CONTINENTAL ECOCONTACT 6 (ยางใหม่: 6.39 กก./ตัน และยางสึก: 5.49 กก./ตัน) ; CONTINENTAL PREMIUM CONTACT 6 (ยางใหม่: 8,93 กก./ตัน และยางสึก: 6,94 กก./ตัน) ; DUNLOP BLURESPONSE (ยางใหม่: 7.97 กก./ตัน และยางสึก: 5.54 กก./ตัน) ; GOODYEAR EFFICIENT GRIP 2 (ยางใหม่: 7.01 กก./ตัน และยางสึก: 5.38 กก./ตัน) ; PIRELLI CINTURATO P7 BLUE (ยางใหม่: 6.96 กก./ตัน และยางสึก: 6.30 กก./ตัน) ; PIRELLI CINTURATO P7 (ยางใหม่: 8.79 กก./ตัน และยางสึก: 6.97 กก./ตัน)

 

(5) ยางในหมวดหมู่ MICHELIN e.PRIMACY ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในยางรถยนต์คุณภาพสูง เช่นเดียวกับแบรนด์ CONTINENTAL, GOODYEAR, BRIDGESTONE, PIRELLI, DUNLOP และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นยางที่ติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์โดยเฉพาะ (กล่าวคือ ยางประเภทนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อบรรลุเป้าหมายเฉพาะของผู้ผลิตรถยนต์) แต่เป็นยางที่สามารถหาซื้อได้จากร้านค้าปลีก

 

(6) เพิ่มระยะทางการใช้งานแบตเตอรี่ EV และลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ - โดยที่ยางใหม่ MICHELIN e.PRIMACY สร้างแรงต้านทานการหมุนที่น้อยกว่าคู่แข่งชั้นนำโดยเฉลี่ย 2 กก./ตัน เทียบเท่ากับการลดการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงสูงถึง 0.21 ลิตร/100 กม., เทียบเท่ากับผลการทดสอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุด 5 ก. สำหรับ VW GOLF 7 1.5 TSI หรือเทียบเท่ากับระยะทางที่วิ่งได้เพิ่มถึง 7% สำหรับ VW E.GOLF

 

(7) - อายุการใช้งาน - ดำเนินการทดสอบอายุการใช้งานโดย DEKRA TEST CENTER ตามคำขอของมิชลินเมื่อเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2020 ด้วยยางขนาด 205/55  R16 91V ใส่ในรถ VW Golf 7 เปรียบเทียบ MICHELIN e.PRIMACY (100%) กับ MICHELIN Primacy 4 (102.1%); การทดสอบอายุการใช้งานใช้วิธีการเฉลี่ย การใช้งานจริง (D50) ด้วยการวิ่ง 14.460 กม. และนำมาเทียบอายุการใช้งานที่ 1.6 มม. ผู้ชนะการทดสอบ ADAC Summer 2020 235/55 R17 ทดสอบโดย ADAC ด้วยรถ Ford Kuga เมื่อปี 2020 การทดสอบนี้ใช้ยางขนาด 235/55 R17 Michelin Primacy 4 เป็นยางที่ได้ผลการทดสอบดีที่สุดในบรรดายางที่นำมาทดสอบ 12 ชนิดในคุณสมบัติการทดสอบด้านต่างๆ (ถนนเปียก ถนนแห้ง เสียงรบกวน การสึกหรอ ความสิ้นเปลืองพลังงาน) Michelin Primacy 4 เป็นผู้ชนะการทดสอบด้วยความคิดเห็นดังนี้ : "มีความสมดุลมาก โดยได้คะแนนดีที่สุดบนถนนเปียก มีการสึกหรอที่น้อยมาก และมีประสิทธิภาพดีมากบนถนนแห้ง" - ได้คะแนน 1.0 ด้านการสึกหรอ

 

(8) - การยึดเกาะบนถนนเปียก - MICHELIN e.PRIMACY ได้คะแนนระดับ "B" ในสเกลฉลาก Wet Grip Item of the European labelling scale.

คุณกำลังใช้งานเบราว์เซอร์เวอร์ชั่นที่ไม่รองรับการทำงานของเว็บไซด์
คุณกำลังใช้งานเบราว์เซอร์เวอร์ชั่นที่ไม่รองรับการทำงานของเว็บไซด์ซึ่งอาจส่งผลกระทบจากใช้งานในบางส่วน กรุณาเลือกใช้เบราว์เซอร์หรืออัพเกรดเบราว์เซอร์ให้ตรงกับรายการข้างล่างเพื่อประโยชน์สูงสุดในการเยี่ยมชมเว็บไซด์